โอกาสมาถึงแล้ว! 5 เหตุผลที่ทัพสิงโตจะเข้าป้ายคว้าแชมป์ยูโรปีนี้

ข่าวฟุตบอลล่าสุด เปิด 5 เหตุผลทำไม อังกฤษ มีโอกาสจะคว้าแชมป์ ยูโร 2020 หลังเดินหน้าเข้าสู่รอบตัดเชือกเรียบร้อย

  แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ขยับเข้าใกล้ที่จะพา "สิงโตคำราม" คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" หลังจากถล่ม ยูเครน ขาดลอย 4-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

อังกฤษ จะเข้าไปพบ เดนมาร์ก ในรอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ คืนวันพุธที่ 7 ก.ค. นี้ (02.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) และนี่คือ 5 เหตุผลที่ว่า ทำไม "สิงโตคำราม" ถึงมีโอกาสจะเป็นแชมป์ยุโรปปีนี้

  1. เกมรับสุดยอด

อังกฤษ ยังไม่เสียประตูเลยตลอดการเล่น 5 นัดใน ยูโร 2020 โดยสามารถเก็บคลีนชีตได้หมดไม่ว่า เซาธ์เกต จะใช้ระบบกองหลัง 3 คน หรือ 4 คนก็ตาม

ช่วงแรกที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังไม่สมบูรณ์นั้น ไทโรน มิงส์ ลงมาจับคู่ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กกับ จอห์น สโตนส์ ได้อย่างยอดเยี่ยม และเมื่อกัปตัน แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาฟิตก็ช่วยให้ทีมแกร่งขึ้น ขณะที่ ลุค ชอว์ ก็ทำผลงานโดดเด่นโดยเฉพาะลูกเปิดจากกราบซ้ายที่อันตรายมาก ส่วน ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็เหนียวแน่นในตำแหน่งแบ็กขวา

ขณะที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารจาก เอฟเวอร์ตัน ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคู่ควรกับการเป็นมือ 1 ของทัพ "สิงโตคำราม" หลังโชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ให้เห็นหลายครั้ง

  2. แชมป์โลก, แชมป์ยุโรป และเบอร์ 1 โลกตกรอบกันหมดแล้ว

เส้นทางของ อังกฤษ ดูจะมีโอกาสสดใสในการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เพราะหากดูชื่อชั้นแล้วน่าจะเหนือกว่า เดนมาร์ก คู่ต่อสู้ในรอบตัดเชือกวันพุธนี้

นอกจากนั้น บรรดาทีมเต็งอย่าง ฝรั่งเศส เจ้าของแชมป์โลก, โปรตุเกส แชมป์ยูโรครั้งก่อน และ เยอรมนี ต่างก็ร่วงตกรอบไปตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมถึง เบลเยียม ทีมอันดับ 1 โลกก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเรียบร้อย

หาก อังกฤษ ผ่าน เดนมาร์ก ก็จะเข้าไปชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่าง อิตาลี กับ สเปน และดูแล้วชั่วโมงนี้ทั้งฟอร์มการเล่นและความมั่นใจของพลพรรค "สิงโตคำราม" ไม่ได้เป็นรองทั้งสองทีมเลย

  3. ได้เล่นที่เวมบลีย์

รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 จะเล่นที่สนาม เวมบลีย์ ทั้ง 3 นัด โดยที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ไฟเขียวให้มีแฟนบอลเข้าไปชมเกมในสนามราว 60,000 คน

แน่นอนว่า การได้เล่นที่ เวมบลีย์ จะช่วยให้ อังกฤษ ได้เปรียบคู่แข่งเพราะได้เล่นในบ้าน และมีแฟนบอลคอยหนุนหลังที่ช่วยให้ทำให้บรรดาแข้งผู้ดีฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น

  4. แนวรุกอันตราย-คู่กลางเยี่ยม

แฮร์รี่ เคน กองหน้าจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดนวิจารณ์หนักหลังทำประตูไม่ได้เลยในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะมาคืนฟอร์มยิง 1 ลูกในเกมชนะ เยอรมนี และอีก 2 ลูกในเกมทุบ ยูเครน

นอกจาก เคน ที่กลับมาฟอร์มเยี่ยมแล้วนั้น ราฮีม สเตอร์ลิง ปีก แมนฯ ซิตี้ ก็เป็นอีกคนที่ทำผลงานดียิงไปแล้ว 3 ประตูเหมือนกัน แถมมี เจดอน ซานโช่ ที่กลับมาลงตัวจริงแล้วและเล่นได้ดีด้วย

ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางอย่าง เดแคลน ไรซ์ และ คาลวิน ฟิลลิปส์ ก็ทำผลงานร่วมกันได้เยี่ยมมาตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยทั้งคู่ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมยังไม่เสียประตูด้วย เพราะเก็บกวาดได้ดีก่อนมาถึงแผงหลัง

  5. ตัวสำรองพร้อมพลิกเกม-กึ๋นกุนซือ

ขุมกำลังทีมชาติอังกฤษ ชุดนี้ถือว่าลงตัวมากมี 11 ตัวจริงที่แข็งแกร่ง ขณะที่ตัวสำรองก็มีคุณภาพไม่แพ้ตัวจริง และพร้อมลงมาช่วยพลิกสถานการณ์ให้กับทีม

อังกฤษ มีตัวสำรองที่ยอดเยี่ยมอย่าง แจ็ค กรีลิช ที่ลงมาแล้วช่วยยกระดับเกมได้แบบทันตาเห็น หลังแอสซิสต์สุดแม่นให้ แฮร์รี่ เคน โขกทำประตูย้ำชัยเยอรมนี หรือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ลงมาสำรองแล้วก็ทำประตูได้ในเกมชนะ ยูเครน

ขณะที่แนวรับก็มีตัวสำรองดีๆ ทั้ง เบน ชิลเวลล์, คีแรน ทริปเปียร์ และ ไทโรน มิงส์ ส่วนกองหน้าก็มี โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่พร้อมลงมาทำประตูได้เหมือนกัน

สุดท้ายคนที่ต้องให้เครดิตอย่างมากก็คือ เซาธ์เกต นั่นเอง หลังแสดงให้เห็นแล้วว่า เป็นกุนซือที่มีฝีมือ และวางแผนในแต่ละนัดได้ดี จากที่เคยผ่านการวิจารณ์มาอย่างหนัก